รีวิว MY SPY พยัคฆ์ร้าย สปายแสบ

รีวิว MY SPY พยัคฆ์ร้าย สปายแสบ

รีวิว MY SPY พยัคฆ์ร้าย สปายแสบ

หลังทำแผนสืบหาพ่อค้าอาวุธวินาศจนเกือบโดนเด้ง เจเจ (เดฟ บาวติสตา) สายลับ CIA ตัวท็อปจำต้องยอมรับงานสอดแนม เคต (พาริสซา ฟิตซ์ เฮนลีย์) น้องสะใภ้ของพ่อค้าอาวุธตัวเอ้ แต่สุดท้ายพยัคฆ์ร้ายอย่างเขากลับถูกลูบคมจาก โซฟี (โคลอี โคลแมน) ลูกสาวของเป้าหมายที่ทำให้ เจเจ ต้องยอมเป็นเพื่อนกับสาวน้อยตัวแสบเพิ่อไม่ให้ถูกเปิดโปงจนค้นพบมิตรภาพแปลกใหม่ที่ทำเอาสายลับสายหินอย่างเขากลายเป็นผู้ชายสายมุ้งมิ้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะเดียวกัน มาร์เกวซ (เกร็ก ไบรค) ก็กำลังวางแผนมาหา เคต และ โซฟี เพื่อตามหาเบาะแสข้อมูลอาวุธมหาประลัยที่ซ่อนอยู่กับพวกเธอ เมื่อภัยร้ายเริ่มประชิดตัวงานนี้ เจเจ และ บอบบี (คริสเตน สคาล) ผู้ช่วยเทคนิกสาวเนิร์ดจะร่วมกันปกป้อง โซฟี และ เคต ได้หรือไม่ในภารกิจสุดปั่นที่จะทำคุณฮาลั่นโรง

บอกตามตรงว่าเห็นหน้า My Spy ทั้งโปสเตอร์และหนังตัวอย่างแล้วมันชวนให้เราหนีห่างอย่างช่วยไม่ได้ด้วย 2 เหตุผล ข้อแรกคือหนังมันมาสูตรสายลับสุดล่ำที่ต้องมาแอ็บแบ๊วดูแลเด็กน้อยซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของหนังครอบครัวเอามาก ๆ และบางเรื่องก็ต้องยอมรับว่ามันทำออกมาไม่สนุกเท่าที่ควร และข้อสุดท้าย เมื่อเห็นหน้าเดฟ บาวติสตา ยืนคู่หนูน้อย โคลอี โคลแมน แถมตัวอย่างยังให้ โซฟี ตัวละครของเธอดูแก่แดดสไตล์หนังจับดาราหนุ่มบู๊สุดล่ำมามุ้งมิ้งเพื่อขยายฐานแฟนคลับตามรอย วิน ดีเซล กับ The Pacifier (2005) ดเวย์น เดอะ ร็อค จอห์นสัน กับ The Game Plan (2007) และล่าสุด จอห์น ซีนา กับ Playing With Fire (2019) ส่วน เดฟ บาวติสตา นอกจากบท แดร็กซ์ ใน Guardian of the galaxy แล้วก็ยังไม่มีหนังเรื่องไหนที่เสริมภาพลักษณ์เขาให้ใกล้เคียงซูเปอร์สตาร์นักมวยปล้ำตามรอยรุ่นพี่อย่าง เดอะ ร็อค หรือ จอห์น ซีน่า ได้เลย

แต่แล้วโอกาสสำคัญก็มาถึง..เพราะโดยเนื้องานแล้วตัวหนังเองสามารถการันตีได้ด้วยชื่อผู้กำกับอย่าง ปีเตอร์ ซีกัล ที่สร้างชื่อมาตั้งแต่หนังชุด The Naked Gun หรือ ปืนเปลือยหนังล้อตำรวจสุดฮา และล่าสุดกับ Get Smart คอมเมดีสายลับสุดปั่นที่เคยได้สตีฟ คาเรล มารับบทสายลับโคตรรั่วจนทำเงินมาแล้ว ซึ่งข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยคือบทหนังของ อีริก และ จอหฺ์น โฮเบอร์ ที่เขียนหนังตลกแอ็กชันปั่น ๆ อย่าง RED และหนังฉลามที่เวอร์จนต๊องอย่าง The Meg มาแล้วเข้ากันได้ดีกับการปู ชง ตบ กำกับคอมเมดีสไตล์ซีกัลมาก ๆ ซึ่งแม้การเล่าเรื่องจะตามสูตรไม่ได้เหนือการคาดเดาแต่มันก็ยังอุตส่าห์มีมุกปั่น ๆ และกล้าเล่นประเด็นล่อแหลมทั้งเรื่องเรื์่องคู่เกย์สุดเพี้ยนในอพาร์ตเมนต์และอารมณ์โบรแมนซ์ระหว่างสายลับสุดเท่กับเจ้าหน้าที่สาวทึนทึกสุดกาว ผลลัพธ์คือจากที่เคยปรามาสตอนเห็นตัวอย่างหนังว่ามันต้องพังพิและน่าเบื่อกลับกลายเป็นหนังดูสนุกโคตรบันเทิงอย่างที่ไม่เคยหัวเราะในโรงหนังดังขนาดนี้มานานแล้ว

ส่วนผสมสำคัญที่ต้องยอมรับว่าเป็นเคมีที่ทำปฏิกริยากับความฮาของคนดูหนีไม่พ้นการแสดงของ โคลอี โคลแมน กับ คริสเตน สคาล ฝ่ายแรกได้ความน่าเอ็นดูสไตล์เด็กหัวหมอ พร้อมกับใบหน้าที่มองแล้วอดยิ้มไปกับจริตของแม่หนูไม่ได้จนเผลอเอ็นดูน้องโคลอี ไม่รู้ตัว ส่วนคริสเตน สคาล อานิสงส์ของความหน้ามึนของนางและมุกพูดผิดกาลเทศะก็ทำให้คนดูอดฮาไม่ได้ เรียกได้ว่าหนังออกมาสนุกเพราะพวกเธอเลยล่ะ ส่วน เดฟ บาวติสตา แม้จะสอบผ่านในแง่ความกล้าแสดงอะไรต๊อง ๆ ออกมาแต่เสน่ห์ก็ยังห่างไกลจาก เดอะ ร็อค และ จอห์น ซีนา อยู่หลายขุม และบ่อยครั้งที่เขาเอาคาแรกเตอร์ตัวเองไม่อยู่จนเหมือนตัวละครเป็นไบโพลาร์มากกว่าสายลับกลับตัวมามุ้งมิ้งอย่างที่บทต้องการ

สำหรับ My Spy หากจะหาเหตุผลชวนไปดูก็คงเหมาะกับคนที่ต้องการหาหนังคลายเครียดดูแล้วอมยิ้มสบายใจ ไม่ต้องคิดมาก แม้จะเป็นหนังที่ไม่ได้แปลกใหม่และงานสร้างบางส่วนอาจดูไม่ค่อยแนบเนียนนักโดยเฉพาะซีจีของหนังที่ดูออกเลยว่างบหมด แต่อย่างน้อยความฮาของบทหนังและเสน่ห์ของบรรดาสาว ๆ ในเรื่องก็น่าจะทำให้ชีวิตหลังออกจากโรงได้มีเรื่องเฮฮาไว้คุยกับเพื่อนได้บ้างแหละน่า

สนับสนุนโดย CommercialAuthority.com ติดตามชมใน ดูหนังออนไลน์ฟรี