ว่ากันว่าหลังจากที่คนใจเย็นไปขับรถ ได้จับพวงมาลัยแล้ว อุปนิสัยอาจจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากตอนสภาพปกติก็เป็นได้ ทั้งนี้ปัจจัยแวดล้อมที่ทำให้ใครสักคนเกิดอารมณ์โกรธมาจากคนอื่นทำในสิ่งที่เราไม่ชอบใจ ประกอบกับความหนาแน่นของการจราจรในทั่วทุกหัวเมืองใหญ่ๆยิ่งทำให้คนขับรถเกิดอาการหงุดหงิดมากกว่าปกติด้วยนั่นเอง
Unhinged หยิบเอาประเด็นคนหัวร้อนกลางท้องถนนมาเพิ่มดีกรีความเดือดดาลยิ่งขึ้นด้วยการเขียนบทตัวละครของรัสเซล โครว์ ให้กลายชายที่ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นหลังจากได้ยินเสียงแช่แตรรถของเรเชล (คาเรน พิสตอริอุส) เขาก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องรักษามารยาทกับใครอีกต่อไป!
อันที่จริงฉากเปิดเรื่องของหนัง ก็เปิดโอกาสให้คนดูได้เห็นแล้วว่า “ชายคลั่ง” คนนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง การที่เขาตัดสินใจถือค้อนเข้าไปทุบหัวแฟนใหม่ของภรรยาและจุดไฟเผาบ้านโดยไม่ฉุกคิดอะไรอีก ก็พอจะบอกได้ว่าเขาไม่สนใจว่าอะไรคือความผิดชอบชั่วดีอีกต่อไปแล้ว เขาก็แค่ต้องการบันดาลโทสะของตัวเองให้สาแก่ใจ
เรเชลเป็นผู้หญิงดวงซวยที่ทุกอย่างก็ถาโถมเข้าใส่เธอมาในเวลาเดียวกัน เพราะนอกจากจะต้องรับมือกับลูกชายแล้ว การจราจรบนท้องถนนที่สาหัสเหลือเกินทำให้เธอไปทำงานสายและโดนไล่ออกจากงานอย่างไร้เยื่อใย วันแย่ๆของเธอยังไม่จบสิ้นเมื่อการบีบแตรใส่รถคันหน้ากลางไฟแดง นำมาซึ่งปัญหาสุดสยองที่ชีวิตของเธอไม่คาดฝันว่าจะต้องเจอ
เรเชลถูกไล่ล่าอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อย แต่ถ้าหากย้อนกลับไปฉุกคิดสักนิด ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้นจากการที่เรเชลตัดสินใจปะทะคารมกับชายคลั่งแบบไม่ยอมลดอารมณ์ของตัวเองลงสักนิด เพราะต่อให้ฝ่ายคู่กรณีเผลอลืมมองไฟแดง การแช่แตรยาวๆก็ดูไม่ใช่วิธีการส่งสัญญาณเตือนที่น่ารักเท่าไหร่ แน่นอนเมื่อปัญหาทั้งหมดเริ่มต้นด้วยอารมณ์ สถานการณ์ต่อเนื่องจึงเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ บ้าคลั่ง ก่อนที่จะทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุด
Unhinged จึงเป็นหนังที่หยิบเอาเรื่องราวบนท้องถนน มาขยายความ เติมรสชาติให้เผ็ดร้อนและดูเกินจริงไปบ้าง แต่ถ้าหนังเรื่องนี้คือความสุดโต่งของคนขาดสติ มันก็น่าจะเป็นหนังที่ช่วยย้ำเตือนให้คนขับรถหลายคนใจเย็นลงได้บ้าง เพราะถ้าหากชีวิตจริงเราเจออะไรแบบตัวละครราเชล ก็คงจะกลายเป็นประสบการณ์ขั้นเลวร้ายในชีวิตที่ไม่มีใครอยากจะเจอกับตัว เพราะใครจะไปคิดว่าการบีบแตรครั้งเดียวจะนำมาซึ่งหายนะขนาดนี้