[รีวิว] Seobok

[รีวิว] Seobok

SEOBOK คือหนึ่งในหนังฟอร์มยักษ์ของเกาหลีซึ่งจริง ๆ เราจะได้ดูกันตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทำให้ตัวหนังต้องเลื่อนฉาย แต่แล้วในที่สุดมันก็ได้ฉาย (ก่อนที่จะไม่ได้ฉายเพราะ Covid-19 กลับมาอีกแล้ว)

SEOBOK บอกเล่าเรื่องราวของมนุษย์โคลนนิ่งที่ชื่อว่า ซอบก ตัวทดลองที่สร้างขึ้นเพื่อความเป็นอมตะของมนุษย์ แต่แล้วคนที่ข้องเกี่ยวกับโครงการนี้ก็เริ่มโดนโจมตี ทำให้ต้องพาซอบกไปยังที่ปลอดภัย ภารกิจนี้จึงตกไปอยู่ในมือของกีฮอน เขาต้องพยายามปกป้องซอบกด้วยชีวิต

จากตัวอย่างคงจะคาดเดาได้ไม่ยากว่าหนังเน้นขายนักแสดงอย่าง กงยู และพัคโบกอม เพราะหนังเรื่องนี้ไม่มีนางเอกจึงทำให้จุดโฟกัสหลักไปอยู่ที่สองนักแสดงนำชายอย่างเต็มที่ ซึ่งต้องบอกว่าทั้งคู่เคมีเข้ากันได้ดีมากถึงมากที่สุด ใครแฟนคลับคนไหนมีช็อตให้กรี๊ดแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความดุ ความดิบ ความหล่อเท่ของกงยู หรือความเด็กน้อยขี้สงสัยอ่อนต่อโลก แสนจะน่ารักของพัคโกบอมก็น่าจะคว้าใจใครหลายคนได้ (และอาจเพิ่มพลังจิ้นด้วยเช่นกัน)

แต่ถึงแม้สองตัวละครหลักจะดีแค่ไหน ตัวละครที่เหลือนี่เรียกได้ว่าตัวประกอบจริง ๆ ไร้มิติ ไม่น่าสนใจ และกลายเป็นน่ารำคาญไปซะแบบนั้น

ทางด้านเนื้อเรื่อง หากใครคาดหวังว่าจะได้ดูหนังไซไฟ แอ็คชัน พลังเหนือมนุษย์อาจจะต้องผิดหวังสักหน่อย เพราะเนื้อเรื่องส่วนมากคือการสนทนาการของสองตัวละครหลัก ถึงปรัชญาชีวิต การตามหาความหมายของชีวิต ชีวิตคืออะไรทำนองนั้น แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่มีฉากแอ็คชันนะ มีแต่น้อย มีในช่วงต้น ๆ เรื่องกับท้ายเรื่อง ซึ่งทั้งสองฉากนั้นก็ถือว่าทำได้ดีเลยนะ (ช่วงท้ายนี่ไม่ใช่เล่น เท่!)

และด้วยความที่หนังเน้นเรื่องการตามหาความหมายของชีวิตมันจึงกลายเป็นหนังที่ค่อนข้างเนือย เนิบ และเบาไปสักหน่อย ยอมรับเลยว่าหลาย ๆ ฉากน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน และหลาย ๆ ฉากก็ยังงง ๆ เช่นกัน ภาพรวมมันไม่มีอะไรเท่าไหร่ ทั้งเรื่องเราจะได้เห็นสองตัวละครผลัดกันพูดถึงประเด็นเหล่านี้ มันจึงทำให้เราไม่อินกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเท่าไหร่ แต่ก็มีคำพูดหลาย ๆ อย่างที่คมและทำให้เราฉุกคิดอยู่เยอะเหมือนกัน

จริง ๆ หนังสามารถใส่อะไรเข้าไปได้เยอะมากเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นแอ็คชันการปกป้องตัวทดลองของกงยู หรือการเผชิญโลกครั้งแรกของพัคโบกอม หรือแม้กระทั่งฉากดราม่าก็ขยี้ได้อีกมาก แต่หนังดันไปเล่นบทสนทนาที่วนไปวนมาอย่างน่าเสียดายและเสียของ

สรุปแล้ว SEOBOK เป็นหนังปรัชญาที่ตามหาความหมายของชีวิต ดำเนินเรื่องด้วยการสนทนาของสองตัวละครหลัก หากใครเป็นแฟนคลับของ กงยู และ พัคโบกอม ก็ไม่น่าจะผิดหวังสักเท่าไหร่ แค่ได้เห็นเคมีของทั้งสองก็เป็นที่น่าพอใจแล้วแหละ