Hitman : Agent Jun

Hitman : Agent Jun

Hitman : Agent Jun เป็นหนังแอคชันคอมมาดี้ขายดีของปีนี้ ซึ่งมีแม่เหล็กหลักคือ ควอนซังอู ที่จะมาโชว์สกิลบู๊แมนๆล่ำๆ มาดนักฆ่าขึงขังและมาดพ่อบ้านกลัวเมียที่ชวนขำ ในเนื้อเรื่องที่สนุกสนาน ชวนติดตาม ผสมผสานหลายรสชาติ สมทบด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกหลายคน เช่น จองจุนโฮ อีอีคยอง ฮวังอูซึลฮเย ฮอซองแท อีจุนฮยอก และนักแสดงรุ่นเยาว์ อีจีวอน

หนังเล่าถึงวันเวลาที่ประเทศต้องเผชิญหน้ากับเหล่าอาชญากรก่อการร้ายซึ่งล่าตัวได้ยากยิ่ง จน ผอ.ฮยองโด (รับบทโดย ฮอซองแท) แห่งสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) ต้องจัดตั้งหน่วยลับพิเศษขึ้นมา ชื่อว่าโครงการ Shield Kite เพื่อเสริมปฏิบัติการให้ทีมต่อต้านการก่อการร้าย โดยการนำเด็กชายกำพร้า ไม่มีตัวตนในสังคม แต่ศักยภาพและหน่วยก้านดีมาเลี้ยงดู ปั้นให้เป็น Hitman คือเป็นมือสังหาร นักสู้ที่เชี่ยวชาญสารพัดอาวุธ ทำหน้าที่สายลับสืบล่าคนร้าย ประดุจมีร่างกายเป็นอาวุธ หรือที่เรียกว่าเป็น Humanoid Weapon

รีวิวภาพยนตร์ Hitman : Agent Jun (2020) | เมื่อมือสังหารในตำนานอยากเป็นพ่อบ้านนักเขียนเว็บตูน
หนึ่งในมือสังหารที่มีฝีมือระดับเอซของโครงการ คือ เจ้าหน้าที่ จุน (รับบทโดย ควอนซังอู) หรือที่เรียกกันว่า เอเจนต์จุน ผลงานของเขาโดดเด่น ตะลุยเดี่ยวจับวายร้ายมาได้เสมอ เป็นที่ชื่นชมของหัวหน้า ด็อกคยู (รับบทโดย จองจุนโฮ) และยังเป็นไอดอลคนเก่งของรุ่นน้องซึ่งเป็นเด็กใหม่ของโครงการ ซึ่งชื่อว่า ชอล (ตอนโต รับบทโดย อีอีคยอง)

ภูมิหลังของจุนเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชน แม้เขาจะมียีนความแข็งแรงแกร่งเหมือนพ่อแม่ที่เป็นนักกีฬาอาชีพ คือนักมวยและนักเทควันโดทีมชาติ ก็ตาม แต่ลึกๆแล้วเขากลับเป็นคนรักการวาดรูปวาดการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ

นั่นเป็นที่มาของการตัดสินใจทิ้งงานไปใช้ชีวิตคนธรรมดาๆที่อยากเป็น ซึ่งรู้ๆอยู่ว่าคงไม่สามารถขอลาออกได้ง่ายๆเช่นงานทั่วไป เขาจึงต้องแกล้งพลาดทำเป็นตายในการโดดร่มระหว่างเตรียมไปจับวายร้ายตัวเป้งที่ชื่อว่า เจสัน

และแล้ว 15 ปีก็ตัดผ่านไป จุนได้กลายเป็น คิมซูฮยอก ผู้ชายธรรมดาๆบ้านๆคนหนึ่งที่ไม่มีประวัติเดิมติดตัว พ่อบ้านของครอบครัวเล็กๆ ภรรยาคือ มีนา (รับบทโดย ฮวังอูซึลฮเย) ครูสอนศิลปะในโรงเรียน และมีลูกสาววัยพรีทีนชื่อ กายอง (รับบทโดย อีจีวอน) แน่นอนว่าอาชีพของเขาคือ วาดเว็บตูนส่งสำนักพิมพ์ แต่งานของเขาไม่รุ่งอย่างที่คาดหวัง พยายามยังไงก็ไม่ได้รับความนิยมเลย มีแต่คำวิพากษ์วิจารณ์ว่าน่าเบื่อห่วยแตก จนหัวหน้าบก.ต้องสั่งให้ตัดจบเรื่องกลางคัน ก่อนจะโดนยำเละไปมากกว่านี้ เห็นแววว่าจุนกำลังจะต้องตกงานในไม่ช้า

เมื่องานไม่ดี เงินก็ไม่มี ก็ไม่ต่างจากสภาพคนไม่เอาไหน ให้ภรรยาบ่นว่าจ้ำจี้จ้ำไชได้ทุกวี่วัน ลูกสาวก็ขาดความภูมิใจในตัวพ่อ คืนนั้นเขาเริ่มท้อแท้หนัก ซัดเหล้าแก้กลุ้มจนเมา แล้วเผลอตัววาดเว็บตูนด้วยเรื่องราวอดีตนักสังหารของตัวเอง ทั้งตัวองค์กรและแผนปฏิบัติการจับผู้ร้ายของตนกลายเป็นเนื้อหาในเว็บตูนไปครบ เนื่องมาจากคำพูดของลูกสาวที่ฝังใจเขา เธอบอกให้ลองเขียนสิ่งที่เป็นตัวเองสิ เหมือนกับที่เธอชอบการแร็ป เธอจะแร็ปเรื่องราวจริงๆของตัวเองเพื่อไปแข่งในรายการ Show Me The Money (รายการแข่งขันแร็ปชื่อดังของเกาหลี)

เช้าวันรุ่งขึ้น คือจุดเปลี่ยนชีวิตครั้งใหม่จึงเกิด เมื่อมีนามาเห็นงานคาเครื่องคอมอยู่ จึงจัดการส่งให้สำนักพิมพ์แทนสามีที่เมาหลับไร้สติ ผลปรากฏว่า เว็บตูนเรื่องนี้เกิดโดนใจผู้อ่านซะงั้น กระแสตอบรับดีมากทันทีที่สำนักพิมพ์อัพโหลด กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน แต่มหันตภัยที่ตามมา คือ ตัวตนจุนถูกเปิดเผย และกำลังตกเป็นเป้า ที่ถูกรุมตามจับจากทั้งสองทาง คือ NIS และ วายร้ายเจสัน

NIS ต้องการตัวจุน ความผิดโทษฐานหลบหนีหน้าที่แล้วยังเปิดเผยความลับของราชการอีก แถมถูกตั้งข้อสงสัยอีกว่าคดีฆาตกรรมลึกลับที่เพิ่งเกิดขึ้นในสังคม ก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับจุน ส่วนเจสัน ก็ต้องการตัวจุนและด็อกคยูมาเพื่อแก้แค้น เพราะเพิ่งได้รู้จากเว็บตูนนี้ว่า ทั้งคู่เป็นผู้จับไซมอนน้องชายสุดรักของตนไปรีดเค้นความลับของเจสันจนถึงแก่ความตาย

แล้วจุนจะรอดไหมเนี่ย ในเมื่อเขาก็ไม่ได้อยากเป็นมือสังหารอีกต่อไปแล้ว แต่ก็ยังต้องเผชิญสถานการณ์คับขันเข้ามาบีบบังคับอีก เพราะชีวิตลูกเมียต้องตกอยู่ในอันตรายเพราะเขาแท้ๆ ความจริงก็ต้องยอมเปิดเผย ปัญหาก็ต้องแก้ไข แต่จะอย่างไร ต้องไปติดตามชมกันดูค่ะ

เป็นหนังอีกเรื่องที่สนุกสนาน ดูเพลินๆ คลายเครียดดีค่ะ พลอตไม่ซับซ้อน บทไม่ต้องคิดเยอะ คอยเก็บมุกฮาที่หยอดกระจายวางไปตลอดเรื่อง (แต่ถ้าผู้ชมคนไหนเส้นลึก หรือคาดหวังเดาเรื่องไว้ก่อนแล้ว ความฮาก็อาจเจือจางไป) หลักๆก็มาจากคาแรคเตอร์ควอนซังอูนี่แหละ ภาพจำความเป็นฮิตแมนมาดเท่คนเข้ม พอพลิกบทมาเป็นอีกด้านที่แตกต่างหน้ามือหลังมือ เป็นคนหงอๆกลัวเมีย เป็นพ่อบ้านจัดการงานบ้านสารพัดแคล่วคล่อง ทนหัวหน้า บก.โวย ถูกชาวเน็ตวิจารณ์แรงๆชวนเสียเซลฟ์ ช่างเป็นความ contrast ที่ขำแบบชวนสงสาร

นอกจากนี้ก็ยังมีมุกฮาแบบหักมุมเซอร์ไพรซ์ หรือตลกขำขันเจ็บตัวจากฉากแอคชันก็มี แต่ไม่ได้เว่อร์บ้าบอจนบั่นทอนความขลังของพลอตนักสังหารหรอก ตัวละครรอบข้างที่ร่วมแจมความฮาคนละหน่อย เช่น ฮวังอูซึลฮเย ฮาในบทภรรยาบวกแม่คนที่สอง อีอีคยอง ในบทของฮิตแมนรุ่นสุดท้ายของโครงการ เลยเหมือนน้องเล็กที่ยังตามรุ่นพี่ไม่ทัน จึงต้องรับบทฮาเงิบบ้าง หรือ อีจุนฮยอก ซึ่งเป็นหัวหน้าบก. จอมบี้ ก็ช่วยชงบทให้ขำๆได้บ้าง

รสชาติอื่นก็พอมีแซมนะ อารมณ์ซึ้งๆของครอบครัว มิตรภาพเพื่อนร่วมงาน รุ่นพี่รุ่นน้อง หรือแม้กระทั่งมิตรภาพข้ามรุ่น ลุงหลาน จองจุนโฮ-อีจีวอน หรือน้าหลาน อีอีคยอง-อีจีวอน ก็ให้มุมชวนน่ารักน่าเอ็นดูดี

ส่วนงานแอคชันซึ่งเป็นไฮไลท์ของบท คิวบู๊เตะต่อยก็น่าดูนะ จะคิวซัดตัวต่อตัวของควอนซังอู สวยงามแข็งแรงคล่องแคล่วดี (ควอนซังอู ขึ้นชื่อในความซิกแพคงาม ถึงเรื่องนี้จะไม่ได้โชว์จะๆ แต่ก็จินตนาการตามได้เองนะ ผ่านเสื้อยืดแนบอก 555) รวมถึงฉากตะลุมบอนซัดกันนัวก็มีเสิร์ฟครบสูตรความเพลิดเพลินค่ะ และที่ดูแปลกตา ก็คือการหยิบซีนการ์ตูนแอคชันมาผสมผสานใช้ในบางฉากอย่างลงตัว แถมด้วยคาแรคเตอร์วายร้ายเจสัน ที่ผู้เขียนดูแล้วก็ไม่กล้าฟันธงว่า เขาดูเหมือนการ์ตูน หรือการ์ตูนดูเหมือนเขา คือมีลุคร้ายขึงขังน่ากลัวแบบมังงะแอคชันเลยค่ะ