แหล่งเรียนรู้พร้อมหอบความรู้กลับบ้าน

การเรียนรู้นั้นหยุดไม่ได้ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ที่เติบโตขึ้นทุกวัน แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง สามารถชวนเด็กๆ ให้เรียนรู้จากสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ ลองมาดูกันว่าสถานที่ ที่คุ้นเคยนั้น เราจะสอดแทรกสาระการเรียนรู้อะไรให้กับเด็กๆ ได้บ้าง

1. พิพิธภัณฑ์ 

จริงๆ แล้วประเทศไทยมีพิพิธภัณฑ์ที่เป็นแหล่งรวมความรู้ที่น่าสนใจหลายแห่ง เป็นสถานที่ที่เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างสนุกสนาน ถือเป็นการเปิดโลกการเรียนรู้ช่วงที่ไม่ได้ไปโรงเรียนได้เป็นอย่างดี มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกัน

  • มิวเซียมสยาม ถือเป็นที่สุดของพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย เพราะที่นี่เด็กๆ จะได้เรียนรู้อย่างสนุกสนานผ่านกิจกรรม Interactive โดยมีธีมการนำเสนอหลักคือ ถอดรหัสไทย ให้เด็กๆ ได้ลองหาคำตอบว่า ความเป็นไทยคืออะไร เรียกได้ว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่เราไม่เคยคิดมาก่อน และยังมีอีกหลายประเด็นให้พ่อแม่ชวนลูกค้นคว้าต่อยอดการเรียนรู้ได้อีกมากมาย
  • นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ พิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติความเป็นมาและเรื่องราวของกรุงรัตนโกสินทร์ด้วยการใช้สื่อผสมเสมือนจริง และมุมมอง 360 องศาให้รู้สึกราวกับว่าย้อนยุคไปเมื่อ 200 ปีก่อน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ ที่นี่เด็กๆ จะได้เรียนรู้ในรูปแบบ Interactive self learning รับรองว่าไม่น่าเบื่ออย่างแน่นอน
  • พิพิธภัณฑ์พระราม 9 (แต่อยู่รังสิตคลอง 5 นะ) ที่นี่เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์ กำเนิดกำเนิดโลกและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ฟังดูอาจไม่น่าตื่นเต้น แต่รูปแบบการจัดแสดงของที่นี่ รับรองว่าเรียกความสนใจเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะมีทั้งแสง สี เสียง สมจริง ไฮไลท์อยู่ที่ไดโนเสาร์ตัวใหญ่เคลื่อนไหวและส่งเสียงได้ เพื่อต้อนรับการเข้าสู่ยุคไดโนเสาร์ และน้ำตกจำลองขนาดยักษ์ในโซนวนนิเวศของไทย ที่ทุกคนต้องประทับใจจนร้อง ว้าว!

นี่เป็นเพียงบางส่วนของพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทย นอกจากนี้ตามจังหวัดต่างๆ ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ และยังมีพิพิธภัณฑ์ของเอกชนอีกมากมาย

2. สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ

ไม่ว่าจะภูเขา ทะเล เดินป่า น้ำตก หรือล่องแพ ทั้งหมดนี้ไม่เพียงเปิดประสบการณ์ให้เด็กๆ แต่การออกไปเรียนรู้โลกกว้าง ยังเป็นโอกาสที่จะได้ฝึกทักษะชีวิตที่จำเป็น ลองมาดูกันว่า สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ แต่ละแห่ง เด็กๆ เรียนรู้อะไรได้บ้าง

  • เดินป่า เที่ยวภูเขา กางเต็นท์ 

– ฝึกดูแผนที่ เริ่มจากแผนที่ในแอปพลิเคชันบอกทางในโทรศัพท์ ไปจนถึงแผนที่เดินป่าศึกษาเส้นทางธรรมชาติอย่างง่ายๆ สอนให้เด็กๆ รู้จักสัญลักษณ์ต่างๆ และจุดสังเกตในแผนที่กับสถานที่จริง เป็นทักษะที่ช่วยให้เอาตัวรอดในสถานการณ์ไม่คาดคิดได้

– เรียนรู้พืชพรรณตามธรรมชาติต่างๆ ประเภทของป่าและไม้ยืนต้นที่พบในพื้นที่

– วัฎจักรชีวิตของสัตว์ต่างๆ 

– การเอาตัวรอดในป่า การกางเต็นท์ ก่อไฟ การหาแหล่งน้ำสะอาด ฯ 

– ศึกษากลุ่มดาวยามค่ำคืน 

  • ทะเล

– เรียนรู้เรื่องน้ำขึ้น-น้ำลง กับการโคจรของดวงจันทร์ 

– รูปแบบและประเภทของเกาะต่างๆ 

– ผลกระทบของขยะพลาสติกในทะเล

– กระแสลม การเกิดคลื่นในทะเล

– ทราย มาจากไหน

– ดูก้อนเมฆ ศึกษารูปทรงและชื่อเรียกของเมฆแต่ละประเภท

นี่เป็นเพียงไอเดียบางส่วน สำหรับการเรียนรู้เมื่อเด็กๆ ได้ออกไปเที่ยวยังสถานที่ตามธรรมชาติ คุณพ่อคุณแม่อาจสังเกตความชอบของลูก และเลือกหัวข้อที่น่าสนใจสำหรับการเรียนรู้ไว้ก่อนการเดินทางก็ได้ อาจทำในรูปแบบของเกม เพื่อให้เด็กๆ รู้สึกสนุกและอยากมีส่วนร่วม เพียงเท่านี้การเรียนรู้ก็เกิดขึ้นได้ทุกทีแล้วค่ะ 

3. ท่องโลกออนไลน์

เด็กยุคดิจิทัลถือว่าได้เปรียบกว่ายุคสมัยอื่นๆ เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ออกไปไหน ก็ยังสามารถหาความรู้มากมายได้จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งทุกวันนี้มีคลาสเรียนออนไลน์มากมายให้เลือกตามความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ ศิลปะ ดนตรี เสริมทักษะ ไปจนถึง คอร์สสอนด้านวิชาชีพต่างๆ 

Starfish Labz ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งเรียนออนไลน์ ที่มีหลักสูตรหลากหลายให้เลือก ทั้งสำหรับพ่อแม่ คุณครู และเด็กๆ ทุกวัย ตัวอย่างคอร์สที่น่าสนใจ ได้แก่ การเขียนโค้ดดิ้ง การทำ Portfolio ให้น่าสนใจ การสอนภาษาจีนง่ายๆ และการเขียนโปรแกรม python สำหรับผู้เริ่มต้น ฯลฯ 

ดังนั้นหากจัดสรรเวลาดีๆ เด็กๆ ก็สามารถเรียนรู้สิ่งที่ตนสนใจได้มากมาย แม้จะไม่ได้ไปโรงเรียน